การสอบ HSK (Chinese Proficiency Test - Hanyu Shuiping Kaoshi / 汉语水平考试) เป็นการสอบวัดระดับความรู้ภาษาจีน ซึ่งเป็นการสอบแบบผู้ใหญ่ ซึ่งอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป เหมาะสำหรับผู้ที่มีความรู้ภาษาจีนเป็นอย่างดี โดยการสอบจะวัดระดับมันสมองของแต่ละคนที่ความรู้ไม่เท่ากัน และนำไปใช้ในอนาคต ซึ่งได้รับการขนานนามว่า TOEFL ภาษาจีน
การสอบแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ข้อเขียน และปากเปล่า
1. การสอบข้อเขียน เป็นการสอบที่ให้ผู้เข้าสอบดูข้อสอบก่อน แล้วเลือกคำตอบ และเขียนอักษรจีนที่กำหนดให้ในโจทย์แต่ละข้อในส่วนการเขียนลงในกระดาษคำตอบ
โดยแบ่งออกเป็นระดับ 1 ถึง 6 (เลขน้อยคือระดับพื้นฐาน แต่เลขมากคือระดับสูงมาก คล้ายๆ กับการสอบวัดระดับความรู้ภาษาญี่ปุ่น หรือ JLPT แต่เลขมากเป็นระดับต้น เลขน้อยเป็นระดับสูง)
ระดับ 1 - ต้องเรียนภาษาจีนให้ได้ 150 คำ 178 ตัวอักษรจีน ใน 1 ภาคเรียน
ระดับ 2 - ต้องเรียนภาษาจีนให้ได้ 300 คำ 349 ตัวอักษรจีน ใน 1 ปีการศึกษา
ระดับ 3 - ต้องเรียนภาษาจีนให้ได้ 600 คำ 623 ตัวอักษรจีน ใน 1 ปีการศึกษาครึ่ง
ระดับ 4 - ต้องเรียนภาษาจีนให้ได้ 1200 คำ 1071 ตัวอักษรจีน ใน 2 ปีการศึกษา
ระดับ 5 - ต้องเรียนภาษาจีนให้ได้ 2500 คำ 1709 ตัวอักษรจีน ใน 2 ปีการศึกษาหรือนานกว่า
ระดับ 6 - ต้องเรียนภาษาจีนให้ได้ 5000 คำ 2633 ตัวอักษรจีน ในเวลาอันยาวนาน
2. การสอบปากเปล่า เป็นการสอบที่บันทึกเสียงตนเองใส่เทปหรือ CD ซึ่งเรียกได้อีกอย่างหนึ่งว่า HSKK(汉语水平口语考试) หรือภาษาอังกฤษ Chinese Proficiency Oral Test โดยปฏิบัติตามคำสั่งของข้อสอบโดยเคร่งครัด แบ่งออกเป็นระดับต้น กลาง และสูง
ระดับต้น - ต้องเรียนภาษาจีนให้ได้ 200 คำ 250 ตัวอักษรจีน ใน 1-2 ภาคเรียน
ระดับกลาง - ต้องเรียนภาษาจีนให้ได้ 900 คำ 864 ตัวอักษรจีน ใน 1-2 ปีการศึกษา
ระดับสูง - ต้องเรียนภาษาจีนให้ได้ 3000 คำ 1800 ตัวอักษรจีน ใน 2 ปีการศึกษาหรือนานกว่า
ข้อเปรียบเทียบระหว่างแบบใหม่กับแบบเดิม HSK ระดับ 1 และ 2 เป็นระดับแรกเริ่ม HSK ระดับ 3 และ 4 เป็นระดับพื้นฐานHSK ระดับ 5 เป็นระดับต้น-กลางHSK ระดับ 6 เป็นระดับสูงและการสอบปากเปล่าจะไม่รวมกับข้อสอบระดับสูงในแบบเดิม
ในแต่ละปี แบบเดิมจัดสอบ 4 ครั้ง แต่แบบใหม่จะจัดสอบเพิ่มขึ้นเป็น 8 หรือ 9 ครั้ง
การสอบ HSK ปากเปล่ายังมีอยู่ แต่การเขียนเป็นเรื่องถูกยกเลิกเมื่อปี 2553 โดยนำไปรวมกับการสอบ HSK ระดับ 5 และ 6
กฎเกณฑ์การสอบ HSK แบบใหม่จะเหมือนกับแบบเดิม คือเตรียมใบเข้าสอบ บัตรประชาชน ดินสอ 2B และยางลบเข้าห้องสอบ และอย่านำข้อสอบออกจากห้องสอบ และอย่ายืมของผู้อื่นมาใช้ ในขณะเดียวกันห้ามส่งเสียงดังระหว่างสอบ และอย่ารบกวนคนอื่นขณะสอบ ผู้เข้าสอบที่มาสายไปรอข้างนอก
แต่ละระดับของระบบใหม่จะแตกต่างจากระบบเดิม
ระบบเดิมคะแนนของระดับนั้นๆ จะไม่เท่ากัน และคะแนนที่ผ่านก็ไม่เท่ากันด้วย
ระบบใหม่คะแนนที่ผ่านเหมือนกันคือ ร้อยละ 60 ของคะแนนเต็ม
ระดับ 1 และ 2 คะแนนเต็ม 200 คะแนน - คะแนนที่ผ่านเกณฑ์คือ 120 คะแนน
ระดับ 3 ถึง 6 คะแนนเต็ม 300 คะแนน - คะแนนที่ผ่านเกณฑ์คือ 180 คะแนน
ปากเปล่าคะแนนเต็ม 100 คะแนน - คะแนนที่ผ่านเกณฑ์คือ 60 คะแนน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น